วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์

จอ LCD เป็นจอแสดงผลแบบ (Digital ) โดยภาพที่ปรากฏขึ้นเกิดจากแสงที่ถูกปล่อยออกมาจากหลอดไฟด้านหลังของจอภาพ (Black Light) ผ่านชั้นกรองแสง (Polarized filter) แล้ววิ่งไปยัง คริสตัลเหลวที่เรียงตัวด้วยกัน 3 เซลล์คือ แสงสีแดง แสงสีเขียวและแสงสีนํ้าเงิน กลายเป็นพิกเซล (Pixel) ที่สว่างสดใสเกิดขึ้น โดย ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จอ LCD ไม่เหมือนจอแสดงผลธรรมดา LCD ไม่ใช่แก้ว ( แต่ก็มีบางชนิดที่ มีส่วนผสมของแก้ว เพื่อทำให้จอหนาเป็นพิเศษ ทุบไม่แตก ) แต่ทำมาจากฟิล์มอ่อนบางที่เกิดความเสียหายได้จากกระดาษทิชชู่อย่างหยาบ คลอรีนและสารเคมีอื่นๆในน้ำประปา จอเหล่านี้บอบบางมาก ต้องดูแลอย่างดีและเบามือมากๆ คุณต้องใช้งานด้วยความระมัดระวัง หากคุณอยากให้จอ LCD อยู่ในสภาพที่ใช้การได้อย่างสมบูรณ์แบบ มาดู Tip นี้กันเลย

การทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์

1. ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้น้ำกลั่น 50% กับแอลกอฮอล์ isopropyl 50% ในการทำความสะอาดหน้าจอ
2. ควรใช้ผ้านุ่มๆอย่างเสื้อยืดหรือผ้าเช็ดหน้าผ้าแบบนุ่มๆ อย่าใช้กระดาษทิชชู่อย่างหยาบ ทิชชู่เนื้อละเอียด หรือผ้าเช็ดจานธรรมดา เนื่องจากผ้าหยาบอาจทำร้ายพื้นผิวที่บอบบางของจอ LCD ได้
3. ปิดอุปกรณ์ก่อนทำความสะอาด สำรวจหน้าจอด้วยความระมัดระวัง ดูจุดพิเศษที่ควรทำความสะอาด อย่าฉีดน้ำยาทำความสะอาดใดๆลงบนหน้าจอ ให้ผ้าที่ใช้ทำความสะอาดหมาดด้วยน้ำยา เช็ดอย่างเบามือโดยวนเป็นวงกลมอย่ากดแรงๆหรือจับหน้าจอด้วยรอยนิ้วมือ ให้คุณคิดไว้ตลอดเลยว่าถ้าคุณหนักมือไปหน่อย คุณอาจต้องเสีย จอ LCD สุดรักไปก็ได้ ทีนี้หล่ะ ถ้าจอเสียแล้วคุณจะเล่นโน้ตบุ๊กยังไง ลองคิดเอาเอง
4. ก่อนที่จะเปิดใช้โน้ตบุ๊ก ควรแน่ใจก่อนว่า หน้าจอ LCD นั้นแห้งแล้วจริงๆ เพราะว่าถ้าเปิดใช้งานในขณะที่จอยังไม่แห้ง จะเกิดความเสียหายได้
5. จอ LCD บางรุ่นอาจมีวิธีการทำความสะอาดเฉพาะ จึงควรศึกษาจากคู่มือ โน้ตบุ๊กที่เราได้มาจากผู้ผลิต อย่างละเอียด

 

แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีไหนหรือใช้สูตรทำความสะอาดใด ขอให้จำไว้เลยว่า ต้อง ดูแลจอ LCD ด้วยความระมัดระวังสูงสุด เบามือ ประณีต และหมั่นเอาใจใส่ ทำความสะอาดจอ LCD อยู่เสมอๆ เพื่อที่ คุณจะได้มีโน้ตบุ๊กหน้าจอสวยๆ ไว้ใช้ต่อไปอีกนานแสนนาน สำหรับวันนี้ขอให้มีความสุขกับ Tip ดีๆที่นำเสนอค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก  วันนี้คุณทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์คุณหรือยัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น