การแปลงไฟล์วีดีโอเป็นภาพนิ่งแบบง่าย ๆ

เจอการ์ตูนเณรน้อยเจ้าปัญญา อิ๊กคิวซังใน Youtube  นึกอยากได้รุปภาพจากคลิปนี้มาไว้ทำสื่อการ์ตูนน่ารัก ๆ บาง  จึงคิดหาวิธีในการจับภาพเคลื่อนไหวในวีดีโอเป็นภาพนิ่ง  ทำได้ค้นหาเจอฟรีแวร์ที่มีอยู่ติดในเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว  แต่ไม่เคยใช้งานความสามารถที่มันมีอยู่  ความสามารถในการแปลงไฟล์วีดีโอเป็นภาพนิ่งนามสกุล jpg  โปรแกรมฟรีแวร์ที่ว่านี้มีชื่อว่า  โปรแกรม DVD Video soft Free studio ทดลองดูแล้ว ปรากฏว่าได้รูปภาพจากวีดีโอหลาย ๆคลิปเลยทีเดียว   แถมวิธีการแปลงไฟล์เคลื่อนไหวเป็นภาพนิ่ง jpg ก้ไม่ยาก  ตามมาดูวิธีกันค่ะ

 

 

 

 

                         รูปที่ 1 หน้าต่างหลักโปรแกรม ฟรีแวร์ DVD Video soft Free studio

 

ขั้นตอนที่ 1 ให้เปิดโปรแกรม DVD Video soft Free studio แล้วคลิ๊กไปที่ ที่เมนู Photo and Image  ดังรูปที่ 1

 

                                  

                                               รุปที่ 2 เมนูการแปลงไฟล์วีดีโอเป็น jpg

 

 

ขั้นตอนที่สองให้  คลิ๊กที่เมนู Free video to jpg  เพือทำการแปลงวีดีโอเป็นไฟล์ jpg

 

 

                      

                          รูปที่ 3 เพิ่มไฟล์วีดีโอเพื่อทำการแปลงเป็นรุปภาพ jpg

 

 

ขั้นตอนที่สาม   ขั้นตอนนี้ให้เพิ่มวีดีโอที่ต้องการแปลงเป็นไฟล์รูปภาพ  โดย ทที่หน้าต่าง Free video to jpg converter > ให้คลิีกที่ Add files  แล้วเลือกไฟล์ Video ที่ต้องการแปลงเป็นรูปภาพนามสกุล jpg> Open

 

 

                                รุปที่ 4 ตั้งค่าการแปลงไฟล์รูปภาพจากวีดีโอ

 

 

ขั้นตอนที่ 4  ตั้งค่าการแยกไฟล์รุปภาพจากวีดีโอแล้วแต่ว่าจะให้แปลงเป็นรูปภาพจากวีดีโอ แปลงที่ความเร็วเฟรมเท่าใด 

 

 

                               

                               รูปที่ 5 ตั้งค่า Output ของไฟล์รุปภาพ

 

 

ขั้นตอนที่ห้า  ให้ตั้งค่า Output ของไฟล์รุปภาพ jpg ที่ผ่านการแปลงจากไฟล์วีดีโอว่าจะเก็บไฟล์ไว้ที่โฟลเดอร์ใด

 

ขั้นตอนที่หก ให้ คลิีก Convert เพื่อทำการเริ่มแปลงไฟล์วีดีโอเป็นไฟล์ภาพนิ่งนามสกุล jpg

 

 

                              

                                   รูปที่ 6 สถานะการแปลงไฟล์วีดีโอเป็น jpg เสร็จสิ้น

ขั้นตอนที่เจ็ด  ในขั้นตอนนี้ไฟล์วีดีโอจะถุกแปลงเป็นภาพินิ่ง หลังการแปลงไฟล์เสร็จสิ้น จะขึ้นสถานะ Process is completed เปิดดูรุปภาพที่แปลงเสร็จสิ้น แล้ว ที่รูปสัญลักษณ์ เปิดโฟลเดอร์ได้  ดังรุปที่ 6

 

 

 

 

                      รุปที่ 7 รุปภาพ jpg ที่ผ่านการแปลงไฟล์จากฟรีแวร์  DVD Video soft Free studio

หากเปิดโฟลเดอร์ดูภาพสำเร็จ  ก็จะได้ภาพในวีดีโอนามสกุล jpg ในความเร็วตามเฟรมที่กำหนดในขั้นตอนที่ 4  แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ สำหรับขั้นตอนในการแปลงไฟล์วีดีโอเป็นภาพนิ่ง jpg ค่ะ

การลบ background ให้กับรูปถ่ายด้วยโปรแกรม Microsoft word 2010

                                                   รูปที่ 1  ภาพก่อนลบพื้นหลัง

เคยใช้โปรแกรม Photoscape ในการลบพื้นหลังของรูปถ่ายมาแล้ว  วันนี้ผ่านไปเจอความสามารถพิเศษในการลบพืนหลังของรูปภาพในโปรแกรมพื้นฐาน basic สุด ๆที่ดิฉันเองไม่เคยทราบมาก่อน มันคือโปรแกรม Microsoft word 2010 ค่ะ 


                                                   รูปที่ 2  ภาพหลังลบพื้นหลังออกด้วยคำสั่งง่าย ๆ


ลองตามมาดูคำสั่งที่ช่วยลบพื้นหลังให้กับรูปภาพกันนะคะ




                                 รูปที่  3 หน้าต่างคำสั่ง เอาพื้นหลังออกจากรูปภาพ


คำสั่งตัดพื้นหลังให้กับรูปถ่าย  อยู่ที่เมนู รูปแบบ  โดยก่อนหน้าที่จะปรากฏเมนูรุปแบบนั้น  ต้องเอา เคอร์เซอร์คลิ๊กที่รูปภาพที่ต้องการลบพื้นหลังออกก่อนค่ะ   ที่เมนูรูปแบบจะมีเมนู เอาพืนหลังออกปรากฏให้เห็น

                             รูปที่ 4 เมนูปรับแต่งเอาพื้นหลังออกจากรุปภาพ


เมื่อคลิ๊กที่เมนู เอาพื้นหลังออก จะปรากกเครื่องมือที่ช่วยตัดแต่งพื้นหลังออก    ดิฉันเองเลือกให้โปรแกรมตัดอัตโนมัติ ไม่ได้ใช้เครื่องมือในการจำกัดบริเวณที่ต้องการตัดพื้นหลัง  หรือ บริเวณที่ต้องการเลือกเก็บไว้  เพราะแค่อยากทดลองใช้งานเมนู  หากต้องการให้พื้นหลังในรูปภาพออกไปหมด  ต้องใช้เครื่องมือในการจำกัดบิริเวณที่ต้องการตัดพื้นหลังช่วยค่ะ  

เห็นไหมหล่ะไม่ยากเลย คราวนี้รูปภาพไหน ๆ หากอยากตัดพื้นหลังออกจากรูปคงไม่ต้องฝืมือขั้นเทพก็สามารถตัดแต่งรูปภาพให้สวยดังใจแล้วค่ะ

Social Photos จัดการรูปภาพใน Facebook,flickr,google plus แบบง่ายๆ

 

แหล่งแชร์รูปภาพหรืออวดรูปภาพ  ก็ไม่พ้น Social network แน่นอน  แต่ถ้าเกิดใช้บริการกันหลายที่  ก็คงต้องวุ่นวายอัพโหลดหลายครั้งใช่ไหมหล่ะ  วันนี้มีตัวช่วยดี ๆ มาร่วมแชร์ค่ะ  แหล่งฝากไฟล์รูปภาพ flickr เป็นแหล่งที่เก็บภาพเด้ด ๆ ไว้อวดโชว์  ส่วน facebook, google+ และเป็นชุมชนทางสังคมอีกแห่ง  เราสามารถย้ายภาพ  แชร์ภาพ หรือจัดการอัลบั่มภาพทั้งหมดใน สามแห่งนี้ในที่เดียวได้   โดยใช้บริการ Social photos ค่ะ

 

 

social photos เป็นเวบไซต์ที่ให้บริการฟรี ในการจัดการรูปภาพระหว่าง social network ใหญ่ ๆ สามแห่งนี้ นั่นคือ  google +,flickr, และ facebook ให้สามารถบริหารจัดการภายในแห่งเดียว และสามารถใช้งานรูปภาพร่วมกันได้ แชร์ร่วมกันได้  ง่ายใช่ไหมหล่ะ

สะดวกสบายสำหรับเหล่าบรรดา ผู้คลั่งไคล้การถ่ายภาพ และการแชร์รูปภาพ 

ทดลองใช้บริการแชร์รูปภาพระหว่าง facebook,flickr,google + ภายในที่เดียวได้ที่ Social photos

การใช้โปรแกรม Free studio manager ดาวน์โหลดวีดีโอจากยูทุปทั้งเพลย์ลิสต์ในครั้งเดียว

 

 

                                   รูปที่ 1 หน้าต่างโปรแกรม Free studio manager

 

วิธีการดาวน์โหลดวีดีโอจาก Youtube มีมากมายหลายวิธี รวมทั้งโปรแกรมช่วยดาวน์โหลดมีเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งที่เป็นฟรีแวร์และแชร์แวร์  แต่ทว่าดิฉันมาติดใจเอาที่ฟรีโปรแกรมตัวหนึ่ง ที่ช่วยดาวน์โหลดวีดีโอจาก Youtube ได้แบบทั้ง playlists ที่มีหลาย ๆคลิปในครั้งเดียว  แบบว่าสูบรวดเดียวได้ทั้ง playlist ขอบอกว่าชอบมากค่ะ  โปรแกรมนี้นอกจากสามารถดาวน์โหลดวีดีโอจากยูปทูปได้แล้ว ยังมากมายความสามารถทั้งดาวน์โหลดและแปลงไฟล์ทั้งยังเขียนแผ่น หรือจัดการอัพโหลดใน facebook ได้อีกตะหาก โปรแกรมนี้มีชื่อว่า Free  studio manager จ้า ขอย้ำฟรีแวร์ใช้ฟรีค่ะ

 

วิธีการในการดาวน์โหลดวีดีโอทั้งเพลย์ลิสต์ จาก ยุทูปด้วยโปรแกรม Free studio manager มีวิธีการดังนี้คะ

 

1. เปิดโปรแกรม Free stuio manager  ขึ้นมา คลิ๊กเลือกที่เมนุ youtube

 

                                          รุปที่ 2  เมนุ Free studio ใน youtube

 

 

2. ที่หน้าต่าง การจัดการ Youtube คลิีกเลือก Free youtube download ดังรูปที่ 2

 

 

 

 

 

3. คัดลอก url ของเพลย์ลิสต์จากวีดีโอใน youtube ที่สร้างขึ้น หรือที่มีผู้อื่นสร้างขึ้นไว้แล้ว 

 

 

 

 

4. นำ url จากขั้นตอนที่ 3 วางลงในหน้าต่าง free youtube download  ด้วยการคลิีกที่ Paste

 

5. ปรับแต่ง preset หรือ quality ของวีดีโอที่   ต่อจากนั้นคลิ๊ก Download

 

6 ชงกาแฟ ดื่มรอ จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความไวของอินเตอร์เน็ตแล้วค่ะ   แค่นี้ก็จะได้วีดีโอจาก Youtube ทั้งเพลย์ลิสต์ไว้เป็นสมบัติ่ส่วนตนแล้วจ้า

แก้ปัญหา spyware ทำให้ไม่สามารถใช้คำสั่ง Copy และ Paste ได้

หงุดหงิดเหลือกำลัง  เมื่องานเร่งด่วน แต่เครื่องคอมพิวเตอร์เกิดอาการรวน อาการที่ว่าคือ ไม่สามารถใช้คำสั่ง Copy และ Paste ได้  หากต้องการ Copy ไฟล์  ต้องใช้วิธีเปิดหน้าต่าง 2 ข้างแล้ว ลากไฟล์ จึงจะสามารถใช้ได้    หากคลิ๊กขวาจะสามารถใช้คำสั่ง Copy ได้ แต่เมื่อต้องมาวาง คลิ๊กขวาอีกรอบ คำสั่ง Paste และ Paste shortcut กลายเป็นสีจาง ๆ ไม่สามารถใช้งานได้

 

ค้นหาวิธีการแก้ปัญหาอยู่นาน หลายวัน จึงไปเจอเข้ากับโปรแกรม จำพวกจัดการกับ Spyware ที่ทำสามารถแก้ปัญหา ไม่สามารถใช้คำสั่ง Copy และ Paste ได้ ซึ่งปัญหาทั้งหมดเกิดจากเจ้า Spyware เจ้าพวก Spyware พวกนี้ หากใช้โปรแกรม Antivirus ก็ไม่สามารถแสกนเจอได้ ต้องใช้โปรแกรม Anti spyware หรือ malware โดยเฉพาะ   โปรแกรมที่ช่วยแก้ไขปัญหา spyware ดังกล่าวคือ

 

โปรแกรม Superantispyware ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีความสามารถในการกำจัด Spyware ในเครื่องคอมพิวเตอร์  หลังการสแกนเครื่องคอมพิวเตอร์ เจอกับ Spyware 3 ตัว ครั้น Restart คอมพิวเตอร์ผลปรากฏว่า สามารถใช้คำสั่ง Copy และ Paste ในเครื่องคอมได้เช่นเดิม  ขอบคุณโปรแกรมดี ๆ เช่นนี้ โปรแกรมนี้ มีทั่งแบบ Free editon และ ชำระเงินค่ะ  อ่านข้อมูลและดาวน์โหลดโปรแกรม ได้ที่    ดาวน์โหลดโปรแกรม Superantispyware

Math worksheet generator สร้างแบบฝึกหัดวิชาคณิตศาสตร์ด้วย Freeware

 

โปรแกรมฟรี ด้านการศึกษาอีกโปรแกรมหนึ่งที่ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอ  นอกจากเป็นโปรแกรมที่มีให้ใช้ฟรี ๆ แล้ว ความสามารถยังเพียบพร้อมและครบครัน เหมาะสำหรับคุณครูคณิตศาสตร์ทุกท่าน เพราะเป็นโปรแกรมที่สามารถสร้างแบบฝึกในสาระวิชาคณิตศาสตร์ได้ง่าย ๆ  และคู่มือในการใช้ก็มีแจกจ่ายตามอินเตอร์เน็ตมากมาย

 

โปรแกรมนี้สามารถสร้างแบบทดสอบในรุปแบบของโปรแกรม Microsoft word ตั้งแต่ word 2003 ขึ้นไป  ทำให้สามารถแก้ไขใบง่ายได้ง่าย   และทำงานแบบอัตโนมัติ เพียงไม่กี่คลิ๊กก็มีใบงานทางคณิตศาสตร์ได้แล้ว

 

 

 

Download Math worksheet Generator

วิธีการใช้งานโปรแกรม Math worksheet Generator มีดังนี้

เรียงบรรณานุกรมให้เป็นเรื่องง่ายในโปรแกรม Microsoft word

ในการจัดทำเอกสารอ้างอิงหรือบรรณานุกรมในตอนท้ายของรายงานนั้น  จำเป็นต้องยึดแบบแผนในการเขียนอ้างอิง   จำเป็นต้องเรียงลำดับชื่อผู้แต่งตามตัวอักษรในพจนานุกรม   หากเรามานั่งเปิดพจนานุกรมทีละตัวเพื่อเรียงลำดับรายชื่อผู้แต่ง   จะต้องใช้เวลานานมาก ในการเรียงลำดับให้บรรณานุกรมนี้ถุกต้อง  แต่วันนี้มีวิธีการง่ายๆ  มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการจัดเรียงบรรณานุกรมค่ะ

วิธีการที่ว่าง่าย คือใช้โปรแกรม Microsoft word ที่เราพิมพ์งานกันนี่หล่ะค่ะ  เพราะโปรแกรม Microsoft word มีฟังกชั่นในการจัดเรียงตัวอักษรหรือตัวเลขให้เราเลือกใช้  เราก็นำมาประยุกต์ใช้ในการจัดเรียงบรรรณานุกรมได้เลย วิธีการเรียงลำดับในบรรณานุกรมทำดังนี้

1 ให้นำชื่อผู้แต่ง  ชื่อหนังสือ หรือ ปีที่พิมพ์ที่จัดเตรียมไว้ มาวางในเอกสาร Microsoft office ดังรูปที่ 1 อย่าให้มีบรรทัดว่างไว้ 

2. หลังจากนั้น คลุมดำ (Drag) เลือกส่วนของชื่อผู้แต่งละรายละเอียดของหนังสือที่ต้องการจัดเรียง   

3. คลิ๊กที่ เมนู เรียงลำดับ   

 

4. จะปรากฏหน้าต่างเรียงลำดับข้อความขึ้นมา เลือก เรียงลำดับตาม ย่อหน้า ชนิดเป็น ข้อความ และเลือก เรียงจากน้อยไปมาก  เพื่อเรียงลำดับข้อความจาก ก ถึง ฮ  หากเลือกเรียงจากมากไปน้อย  จะเรียงลำดับตัวอักษร จาก ฮ  ถึง ก  ต่อจากนั้นคลิ๊ก ตกลง

5 แค่นี้ชื่อผู้แต่งในบรรณานุกรมก็จะถูกจัดเรียงได้ถูกต้องตามลำดับที่ควรจะเป็นในพจนานุกรมได้แล้วค่ะ

เปิดเอกสาร PDF ด้วย Google Chrome

Format คอมพิวเตอร์ใหม่ค่ะ  กำลัวุ่นวายหาโปรแกรมมาลงไว้ใช้งาน  โปรแกรมที่มักจะติดเครื่องไว้เสมอก็คือ  โปรแกรม Acrobat reader แต่ว่าวันนี้เกิดผ่านไปเจอความสามารถพิเศษของเวบบราวเซอร์ตัวหนึ่ง ที่ทำให้ดิฉันลืม Acrobat reader หรือว่าโปรแกรม Foxit reader ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีไว้เปิดดูเอกสาร pdf ไปเลย  เวบบราวเซอร์ที่ว่าคือโปรแกรม Google chrome ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีไว้ใช้ท่องเน็ต ทั้งยังเป็นโปรแกรมฟรีจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Google เสียด้วยซิ 

ความสามารถของโปรแกรม Google chrome ที่ทำให้โปรแกรม PDF Viewer รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ กับคู่แข่งคือ  ความสามารถในการ เปิดเอกสาร pdf อ่าน ,ค้นหา ,สั่งพิมพ์ ,บันทึก และครบครรันด้วยเครื่องมือ  เครื่องมือ ขยาย ,ย่อ ทั้งยัง สามารถ กรอกแบบฟอร์ม - เขตข้อมูลฟอร์มจะถูกเน้นในแสงสีฟ้า คลิกที่เขตข้อมูลฟอร์มที่จะพิมพ์ กดแท็บเพื่อข้ามไปยังเขตข้อมูลถัดไป ได้อีกด้วย

ชักเริ่มสนใจทดลองใช้งานกันหรือยังค่ะ  การใช้งานโปแกรม Google chrome ในการใช้เปิดเอกสาร pdf  กันหรือยังคะ  ถ้าพร้อม เรามีวิธีการเปิดเอกสาร pdf จาก Google chorme ดังนี้คะ

 

คลิ๊กขวาที่เอกสาร pdf ที่ต้องการเปิด เลือก Open with > Google chrome แค่นี้เอกสาร pdf ดังกล่าวก็จะถูกเปิดอ่านด้วยโปรแกรม Google chrome แล้วค่ะ

การแปลงไฟล์เสียงประเภท cda เป็น wav หรือ mp3 ด้วย JetAudio

ไปได้แผ่นเพลง audio ไฟล์ประเภท cda มาแผ่นหนึ่ง อยากเก็บไว้ฟังในเครื่องหรือเก็บไว้ใช้งานโดย ซึ่งไฟล์เสียงประเภทนี้   ถ้าเอามาลงคอมพิวเตอร์หรือมือถือจะฟังไม่ได้  โปรแกรมจะฟ้องว่าหาไฟล์ไม่เจอ ไฟล์ไม่ถูกต้อง วิธีการแก้ไขคือ จำเป็นตอ้งแปลงไฟล์เหล่านี้ให้อย่ในรุปแบบของ mp3,wav นั่นเอง   แล้วก็ค้นเจอจนได้ วิธีการในการแปลงไฟล์เหล่านี้จนได้ จากโปรแกรมที่มีติดเครื่อง (พอดี ) ไม่ต้องไปดาวน์โหลดมาเพิ่มเติม  โปรแกรมนี้คือ โปรแกรม JetAudio

 

 วิธีการแปลงไฟล์ cda เป็น mp3 หรือ wav มีวิธีการดังนี้ค่ะ

ขั้นตอนที่ 1 เปิดโปรแกรม JetAudio ขึ้นมา คลิ๊กที่เมนู Rip CD 

                           

ขั้นตอนที่ 2. จะปรากฏหน้าต่างให้ตั้งค่าเพื่อทำการ rip ไฟล์เสียงประเภท cda โดย  soourc drive หมายถึง  drive ที่เก็บไฟล์เพลงทีเราต้องการ rip ดิฉันเลือก จาก Drive f เพราะเพลงที่ต้องการ rip อยู่ที่ Drive f ค่ะ

ขั้นตอนที่ 3  ตั้งค่า  Album title,Album artist ,Genre ค่าต่าง ๆ เกี่ยวกับเพลงที่ต้องการ rip จะเติมหรือไม่เติมก็ได้

ขั้นตอนที่ 4  ตั้งค่าTarget File Naming เป็นชื่อของไฟล์หลังการแปลง ว่าต้องการให้แสดงชื่อไฟล์ในรูปแบบใด

ขั้นตอนที่  5  ตั้งค่า Folder เป็นแหล่งเก็บไฟล์ที่แปลงเสร็จสิ้นแล้ว

ขั้นตอนที่ 6 Output format เป็นประเภทของไฟล์หลังจากการแปลงเสร็จ ให้เรากำหนดค่าได้ตามต้องการ ดิฉันเลือกเป็น wav หากใครจะแปลงเป็น mp3 ก็เลือกเป็น mp3 ค่ะ

7. Rip   continuous selected tracks as one file ใช้ในกรณีที่ต้องการแปลงไฟล์ที่เลือกทั้งหมดให้ต่อเนื่องเป็นไฟล์เดียวตลอด

ขั้นตอนที่ 8  เลือกไฟล์ที่ต้องการแปลง

 

ขั้นตอนที่ 9 หลังการตั้งค่าเสร็จสิ้นให้คลิ๊ก Start เพื่อเริ่มทำการ แปลงไฟล์เพลงประเภท cda

 

ขั้นตอนที่ 10 เมื่อครบ 100 เปอร์เซ้นต์  จะปรากฏหน้าต่าง add to album ดังรูปด้านบน  ให้คลิ๊ก No ได้เลย

                 

             ขั้นตอนที่ 11 . ลองมาเปิดดุผลงานจากการ rip cd ด้วยโปรแกรม jet audio ตามโฟลเดอร์ที่เราตั้งค่าใน Out put ไว้ตามข้อ   5 ก็จะปรากฏชื่อไฟล์เพลงที่นามสกุล .wav เรียบร้อยค่ะ  ซึ่งไฟล์เหล่านี้สามารถเปิดฟังในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือส่งต่อไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ได้หรือว่า Burn ใส่แผ่นซีดีไว้ฟังก็ได้ค่ะ

การตัดเอาภาพในเอกสาร PDF

 

 

พี่สาวนั่งทำงานเอกสารสำหรับประกอบการประเมินโครงการ โดยใช้ข้อมูลจากเอกสาร pdf แล้วก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า  ทำอย่างไรจึงจะสามารถเอารูปภาพในเอกสาร pdf เหล่านี้มาประกอบในไฟล์งาน Microsoft word ที่ตนสร้างขึ้น  หากจะใช้วิธีการแปลงไฟล์ PDF ก็ยังใช้ภาพดังกล่าวไม่ได้  ดิฉันจึงเสนอแนะให้ใช้วิธีการง่าย ๆ คือ ตัดเอาเฉพาะภาพนั้น ๆ เอามาใช้ โดยใช้เครื่องมือในโปรแกรมทีอ่าน เอกสาร pdf นั่นเอง  หากว่าใช้โปรแกรม acrobat reader  ในการอ่านเอกสาร pdf

 

ก็ใช้เครื่องมือ snapshot Tool ซึ่งมีไอคอนเป็นรูปกล้องถ่ายรูป   โดยลากเลือกเฉพาะรูปภาพตรงที่เราต้องการ ก็จะสามารถ Copy รูปภาพจากเอกสาร pdf ไปวางใน Word ได้แล้วค่ะ

 

 

 

 

หากบางท่านใช้โปรแกรม Foxit  Reader ในการอ่านเอกสาร pdf ก็คลิ๊กเลือก เครื่องมือที่เป็น icon กล้องถ่ายรูปด้วยอีกเช่นกัน ทำให้สามารถจับภาพจากเอกสาร pdf ได้แล้วค่ะ

 

 

 

อีกทางเลือกคือ  การใช้โปรแกรมจับภาพ เช่น snipping Tools มาใช้ในการจับภาพจากเอกสาร pdf ได้แล้วค่ะ

แก้ปัญหาเมื่อเปิดไฟล์นามสกุล .docx, .xlsx , .pptx ไม่ได้

เพื่อนที่ทำงานคนหนึ่ง ถามถึงวิธีการเปิดไฟล์เอกสาร นามสกุล .docx ,xlsx,.pptx ในคอมพิวเตอร์  ดิฉันเองนึกอึ้ง ไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้ พอจะรู้มาบ้างว่า ไฟล์เอกสารนามสกุล .docx ,xlsx,.pptx  เหล่านี้สร้างจากโปรแกรม Microsoft Office 2007 ซึ่งจะมีนามสกุลต่อท้ายเป็น .docx, .xlsx , .pptx ดังนั้นหากใช้โปรแกรม  Microsoft  Office ที่เวอร์ชั่นต่ำกว่า 2007 จึงไม่สามารถเปิดไฟล์นามสกุลเหล่านี้ได้  แต่มีวิธีการแก้ไขง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ  เราจำเป็นต้องไปดาวน์โหลดโปรแกรมเสริม มาติดตั้งใน Ms office 2003 เพิ่มเติม  ครั้นติดตั้งเรียบร้อยเราก็จะสามาถใช้งานไฟล์เอกสารดังกล่าวได้ค่ะ

โปรแกรมเสริมตัวนี้ ดาวน์โหลดได้ที่  

Microsoft Office Compatibility Pack for Word, Excel, and PowerPoint File Formats

 

 

หลังการติดตั้งโปรแกรมเสริมดังกล่าว ก็จะสามารถใช้งานได้แล้วค่ะ

การใช้งานโปรแกรม Wondershare ppt2Flash

 

โปรแกรม Wondershare ppt2Flash เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการแปลงไฟล์ Powerpoint (*.ppt) เป็นไฟล์แฟลช ( Flash) นามสกุล .flv ซึ่งสามารถนำเอาไฟล์แฟลช ( Flash) ดังกล่าวอัพโหลดขึ้นแสดงผลบนเวบไซต์หรือเวบล็อก ผ่านโลกออนไลน์ได้   แถมยังสนับสนุนกับอุปกรณ์อื่น ๆ ด้วย เช่น  มือถือ หรือ Tv เป้นต้น โปรแกรมแปลงไฟล์ Wondershare ppt2flash โปรแกรมนี้เป็นแชร์แวร์ค่ะ 

                 รุปที่ 1 แสดงหน้าต่างการ นำเข้าของไฟล์งานนำเสนอใน Powerpoint

วิธีการในการแปลงไฟล์ powerpoint เป็น  Flash  มีขั้นตอนหลัก ๆ ในการแปลงไฟล์ แค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้นค่ะ                 

1. หลังการติดตั้งโปรแกรม Wondershare ppt2flash เรียบร้อย ให้เปิดโปรแกรม Powerpoint  ขึ้นมา แล้วให้ นำเข้า ( import) ไฟล์งานนำเสนอ ที่ต้องการแปลงเป็นไฟล์ flash

                                   รุปที่ 2 เมนูการปรับแต่ง ไฟล์งานนำเสนอจากโปรแกรม ppt2Flash

2. ปรับแต่งการแสดงผลให้กับไฟล์งานนำเสนอ โดยอาจเพิ่ม Effect ให้กับไฟล์งานนำเสนอเหล่านั้น ที่เมนู PPT2Flash Professional จะมีเมนูย่อยให้ปรับแต่ง  โดยอาจเพิ่ม ไฟล์แฟลช  เพิ่มคำถาม เพิ่มเสียง หรือการบันทึกเสียง

                                 รูปที่ 3 เมนุการ Publish ไฟล์งานนำเสนอ

3. หลังปรับแต่งค่าจนได้ตามต้องการ คลิ๊ก Publsih เพื่อทำการแปลงไฟล์ powerpoint  เป็น flash

                            รูปที่ 4 การตั้งค่าการ แปลงไฟล์ Powerpoint ก่อนแปลงเป็น Flash

ต่อจากนั้นจะปรากฏหน้าต่างให้ตั้งค่า output โดยเลือกเป็น puplish แบบ swf/web

Title : ชื่อของไฟล์งาน Flash

Location : หลังการแปลงไฟล์เสร็จ ไฟล์งานจะเก็บไว้ที่โฟลเดอร์นี้

เราสามารถเลือกการแปลงไฟล์ได้ทั้งหมด หรือเลือกเฉพาะช่วงใดช่วงหนึ่งได้จาก  slide range

จากรูปตัวอย่างดิฉันเลือก all slide คือเลือกแปลงไฟล์ทั้งหมด

แค่นี้ก็ได้ไฟล์แฟลช ( Flash) จากโปรแกรมนำเสนอ Powerpoint เพื่อนำเสนอผ่านโลกออนไลน์ได้แล้วค่ะ ทดสอบ  เข้าไปเปิดดูผลงานได้ที่  Location ในส่วนของ output setting ได้แล้วค่ะ

การลบแถบเครื่องมือ (Toolbar )ออกจากเวบบราวเซอร์

แถบเครื่องมือ ( Toolbar ) ในเวบบราวเซอร์ เป็นแถบเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน ค้นหาและ search ข้อมูลในอินเตอร์เน็ต  แต่ว่า บางครั้ง แถบเครื่องมือบางตัว มีติดมาเฉย ๆ แต่ไม่ได้ใช้  ซึ่งเกิดจากการติดตั้งโปรแกรม  บางตัว แล้วไม่อ่านรายละเอียดให้ครบ คลิีกติดตั้งจนแล้วเสร็จ จึงได้มีแถบเครื่องมือในเวบบราเวซอร์ ติดมาด้วย   ปัญหาก็คือว่า  แถบเครื่องมือเหล่านี้ไม่ได้ใช้งานทำให้ กินพื้นที่ทรัพยากรในเครื่องคอมพิวเตอร์  และยังรำคาญตา ของผู้ใช้อีกด้วย วันนี้จึงนำวิธีการลบ แถบเครื่องมือในเวบบราวเซอร์ออกมานำเสนอค่ะ

 

วิธีการลบแถบเครื่องมือในเวบบราวเซอร์มีขั้นตอนดังนี้

 

 

 

1. เปิดเวบบราวเซอร์ที่มี Toolbar ที่ไม่จำเป็นขึ้้นมา  ดิฉันขอยกตัวอย่าง แถบเครื่องมือของ Incredibar จำไม่ได้ว่าไปติดตั้งโปรแกรมอะไรเลยได้ของแถมเป็นแถบเครื่องมือนี้มา  เห็นแล้วเกะกะตา   วันนี้ขอลบหน่อยเหอะ   ให้ คลิ๊กที่เครื่องหมายกากบาท เพื่อเป็นการหยุดการทำงานของแถบเครื่องมือ Incredibar Toolbar

 

2. ที่หน้าต่าง Disable addon  จะมีคำถามเพื่อความยืนยันในการลย  ให้ติ๊กที่เครื่องหมายถุูกที่ หน้าชื่อ addon นั้น ๆ แล้วคลิ๊ก Disable

 

 

3. ต่อไปเป็นการลบแถบเครื่องมือ นั้น ๆ ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์แบบถอนรากถอนโคน โดยการ Remove โปรแกรม ออกไป  หากใช้ Windows 7 คือ ไปที่

start >control panel > program and features

หากเป็น windows xp ก็จะเริ่มต้นที่ start > control panel> add or remove program

ซึ่งทั้ง ระบบปฏิบัติการแต่ละอย่างการลบ หรือ Remove โปรแกรม ก็คล้าย ๆกันค่ะ

ต่อจากนั้น มองหา ชื่อแถบเครื่องมือ นั้น ๆ คลิ๊กขวา เลือก Uninstall

ระบบจะให้เราทำการปิดเวบบราวเซอร์ทั้งหมด เพื่อลบ Toolbar ดังกล่าวออก

 

รอจนกระทั่ง สถานะการลบเสร็จสิ้น (Completed) ก็เป็นอันว่าแถบเครื่องมือที่ไม่จำเป็นเหล่านี้ได้ถูกลบออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไปเรียบร้อย   ครั้งต่อไปในการติดตั้งโปรแกรม  ควรระมัดระวังอ่านให้ดีก่อนสักนิด  แล้วค่อย คลิ๊ก Next เพื่อติดตั้งค่ะ จะได้ไม่ต้องรับของแถมเกะกะสายตาเช่นนี้

ทางเลือกในการแปลงไฟล์พาวเวอร์พอยท์เป็นแฟลช

 

โปรแกรม PowerPoint เป็นโปรแกรมที่ใช้งานนำเสนอ ที่หลาย ๆ คนนิยมใช้   และเชื่อว่าหลายคนต้องเคยสร้างงานนำเสนอเป็นไฟล์งาน Powerpoint มาแล้วบ้าง  วันนี้มาลองชวนนำไฟล์งาน Powerpoint ขึ้น อวดบน Internet กันดูไหมคะ  ไฟล์งาน PowePoint เหล่านี้ ก่อนที่จะขึ้นนำเสนอบนอินเตอร์เน็ตได้  จำเป็นต้องแปลงเป็นไฟล์แฟลชก่อนนะคะ   โดยวิธีการในการแปลงไฟล์งานนำเสนอเหล่านี้มี  หลากหลายวิธีการ  วันนี้นำมาแบ่งปันร่วมกันค่ะ

 

 

 

 

วิธีในการแปลงไฟล์พาวเวอร์พอยท์เป็นแฟลช วิธีแรกคือ ใช้โปรแกรมนำในการแปลงไฟล์งานนำเสนอจาก Powerpoint แปลงเป็นไฟล์วีดีโอ หรือไฟล์ แฟลงเพื่อใช้ในการนำเสนอแบบออนไลน์เช่นโปรแกรม  Wondershare ppt2 Flash เป็นต้น  โปรแกรมนี้ใช้งานไม่ยาก ขั้นตอนไม่สลับซับซ้อน แค่ 3 ขั้นตอนก็สามารถนำไฟล์ powerpoint นำเสนอแบบออนไลนืได้แล้วค่ะ

 

วิธีที่ 2 ใช้บริการเวบแชร์ไฟล์ Powerpoint หรือไฟล์เอกสาร เช่น เวบไซต์ Slideshare, ในการอัพโหลดเอกสารนำเสนอประเภท Powerpoint ขึ้นโชว์แบบออนไลน์ แล้วนำ embed code มาวางในเวบไซต์หรือเวบบล็อกของตน

3.ใช้วิธีการจับภาพ Screen capture โดยใช้โปรแกรมในการจับภาพ เคลื่อนไหว การเล่นของไฟล์ Powerpoint เป็นไฟล์งานวีดีโอแล้ว อัพโหลดขึ้นโชว์ 

4.ใช้วิธีการแปลงไฟล์งานนำเสนอเป็นรูปภาพ ประเภท jpg แล้ว นำภาพดังกล่าวมาสร้างเป็นวีดีโอ โดยใช้โปรแกรมสร้างสไลด์แบบ Video เช่น การใช้โปรแกรม Windows live movie maker ในการแปลงไฟล์ Powerpoint เป็น Video

 

5.ใช้บริการแปลงไฟล์พาวเวอร์พอยท์เป้นไฟล์แฟช  แบบออนไลน์ในการแปลงไฟล์ Powerpoint เป็น flash ซึ่งเวบไซต์ที่ดิฉันนิยมเข้าไปใช้บริการแปลงไฟลื ต้องที่นี่เลยค่ะ zamzar.com ที่นี่สามารถแปลงไฟล์ได้แทบทุกนามสกุล  แถมไม่ต้อง Register ด้วย ใช้งานง่ายแน่นอนค่ะ

 

ทั้งหมดนี้เป็นทางเลือกในการแปลงไฟล์พาวเวอร์พอยท์เป็นไฟล์แฟลช  ก่อนนำไฟล์ Powerpoint ขึ้นอวดโชว์บนโลกออนไลน์  สะดวกวิธีใด ชอบใจแบบไหน คงต้องทดลองเลือกใช้กันดูนะคะ

การแปลงเอกสารเป็นหนังสือEbook ในรูปแบบ ePUB Format

มีเอกสารที่เป็นไฟล์นามสกุล pdf อยู่มากพอดู  เป็นเอกสาร pdf ที่เกี่ยวกับบทความที่เคยเขียนเล่น ๆ ไว้  อยากลองแปลงเป็น ebook ประเภท ePUB เพราะเท่าที่รู้มา รุปแบบ ePUB มันสามารถใช้เปิดอ่าน ebook ได้กับอุปกรณ์หลายชนิด  ซึ่งบางอุปกรณ์ ไม่รองรับเอกสารอิเล็คทรอนิคแบบ pdf ดังนั้น จึงไปค้นวิธีการใช้งาน   หากจะแปลงด้วยเวบไซต์ที่ให้บริการแปลงไฟล์ ebook เป็น ePUB ก็คิดว่าตนคงได้แปลงเอกสารเยอะเป็นแน่   หาโปรแกรมมาไว้แปลงโดยเฉพาะจะดีกว่า จึงได้ไปเจอเข้ากับ ฟรีแวร์ ที่ชื่อว่า โปรแกรม Hamster Free EbookConverter เป็นฟรีแวร์ที่ช่วยแปลงไฟล์เอกสารต่างเป็น ebook ได้ สนับสนุนกับอุปกรณ์ในการอ่าน ebook มากกว่า 200 ชนิด ทั้งยังสามารถแปลงไฟล์ได้หลาย Format ไม่ว่าจะเป็น text,pdf,epub ฯลฯ เป็นต้น

สำหรับการใช้งานโปรแรม Hamster free ebook converter มีวิธีการในการแปลงไฟล์เอกสารเป็น ebook ดังนี้

1. หลังจากดับเบิ้ลลคลิ๊กที่ Icon  ของ โปรแกรม Hamster Free Ebook Converter เพื่อเปิดโปรแกรม จะพบหน้าต่างของโปรแกรม มีแค่ไม่กี่เมนู   โดยเริ่มต้นลากไฟล์เอกสารที่ต้องการเปลี่ยนเป็น ePUB มาวางกึงกลางโปรแกรมได้เลย

2. ขั้นตอนที่สอง  หลังเพิ่มเอกสารเรียบร้อย คลิ๊ก Next เพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไป

4. เลือกอุปกรณ์ Devices โดยคลิ๊กที่ icon ของอุปกรณ์ นั้น ๆ จะปรากฏหน้าต่างให้เลือกการตั้งค่าอุปกรณ์  พร้อม Format หรือรูปแบบของ ebook ที่ต้องการ หากต้องการแปลงเอกสารเป็น ePUB ก็คลิ๊กเลือก ePUB ต่อจากนั้นคลิ๊ก Convert

6,รอสักครู่ จะปรากฏข้อความว่า Conversion was completed successully เป็นอันว่า เอกสาร ebook ได้ถุกสร้างขึ้นเรียบร้อย  คลิ๊ก Open folder เพื่อเข้าไปดูผลงานได้แล้วค่ะ

ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนในการใช้โปรแกรม Hamster free ebook converter ในการแปลงไฟล์เอกสารเป็นไฟล์ ebook 

 

การบันทึกเอกสาร WORD เป็น PDF ใน Microsoft word 2010

ได้มีโอกาสใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของญาติคนหนึ่ง  สังเกตว่า ท่านใช้โปรแกรม Microsoft office 2010 ซึ่งตัวดิฉันเองเคยใช้แต่ Microsoft office 2007  ดังนั้น เมื่อเจอเมนูใหม่ ๆ แปลก ๆ ก็เลยงงนิดหนึ่ง  แต่ทว่า มาเจอข้อดีของโปรแกรม Microsoft word 2010 ที่ว่า สามารถบันทึกเอกสาร Docx เป็น PDF ได้เลย  โดยที่ไม่ต้องดาวน์โหลด addin มาติดตั้งเหมือน Microsoft word  2007  ดังนั้นก็เลยขอทดลองบันทึก word 2010 เป็น pdf ซะหน่อย

 

 

 

ขั้นตอนในการบันทึกเอกสารจากโปรแกรม Microsoft word 2010 เป็น เอกสาร pdf มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ

 

1. เปิดโปรแกรม Microsoft word  2010 ขึ้นมา >share>create pdf/xps Document  ดังรูปที่ 1

 

 

2 ต่อจากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Publish as pdf or xps ขึ้นมา  ให้เราเลือกโฟลเดอร์สำหรับเก็บเอกสาร pdf

 

: Filename       :  ตั้งชื่อเอกสาร pdf

save  as type   : ให้เลือกว่าจะบันทึกเป็นเอกสาร pdf หรือ xps

 

 

3. หากใครต้องการตั้งค่าการบันทึกเพิ่มเติม เลือกที่ Option  ซึ่งเมนูนี้จะให้เราตั้งค่าว่าจะบันทึกทั้งเอกสาร หรือเลือกเฉพาะช่วงใดช่วงหนึ่งก็ได้

 

4. หลังการตั้งค่าเสร็จสิ้น เลือก Publish เพื่อทำการบันทึกเอกสาร pdf ที่ได้

 

เสร็จแล้วค่ะ สำหรับวิธีการบันทึกเอกสาร นามสกุล .Docx ที่ได้จากโปรแกรม Microsoft word  2010 เป็นเอกสาร pdf  มีวิธีการที่ไม่ยากเลย   ทดลองใช้งานกันดูนะคะ

เครดิต http://www.trickyways.com/

Freeware Recuva ช่วยกู้ไฟลข้อมูลที่เผลอลบทิ้ง

เผลบลบข้อมูลสำคัญ ๆ ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์   เมื่อถึงคราวจำเป็นต้องใช้งาน เอาหล่ะสิ ! หาจนตาเหลือกก็ไม่เจอ  จึงทำให้นนึกขึ้นมาได้ว่า  ได้ลบไฟล์ทั้งโฟลเดอร์ทิ้งไปทั้งหมด  จึงต้องร้อนรนวิ่งหาตัวช่วยในการกู้ไฟลข้อมูลดังกล่าวกลับคืนมาให้ได้

สำหรับวิธีการใช้งานโปรแกรม Recuva ในการกู้ไฟล์กลับคืนมามีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ

ขั้นตอนที่ 1 หลังการติดตั้งโปรแกรม Recuva เสร็จแล้วเมื่อเปิดโปรแกรมจะมีข้อมความกล่าวต้อนรับดังรูปที่ 1   คลิ๊ก Next

ขั้นตอนที่สอง เลือกประเภทของไฟล์ที่เราต้องการกู้ข้อมูลคืน แล้วเลือก คลิ๊ก next

 

ขั้นตอนที่สาม เลือกแหล่งที่ต้องการค้นหาข้อมูลเพื่อกู้คืน หากไม่แน่ใจ คลิ๊ก I ‘m not sure ดังรูปด้านบนเลยค่ะ  ถัดไปให้คลิ๊ก Next

ขั้นตอนที่สี่ จะปรากฏหน้าจอขอบคุณ แล้วให้เริ่มการค้นหาด้วยการเลือก start 

ต่อจากนั้นรอสักอึดใจ  ให้ Recuva ช่่วยค้นหาไฟล์ข้อมูลตามที่เรากำหนดเงื่อนไขไว้ค่ะ

ขั้นตอนสุดท้าย เลือกไฟล์ที่เราต้องการจะกู้คืน โดยการติ๊กเครื่องหมายถูกที่หน้าไฟล์นั้น แล้วเลือก Recover เมนูขวามือด้านล่าง  แค่นี้ ข้อมูลที่เราต้องการกู้คืนก็กลับมาได้แล้วจ้า ตอนนี้ Recuva เวอร์ชั่น   1.42.544  ขนาด 2,508 kb  สนับสนุนระบบปฏิบัติการ Runs on Microsoft Windows 7, Vista, XP and 2000. Including both 32-bit and 64-bit versions.

ดาวน์โหลดได้ที่  Recuva – Download